
วาง Timeline แพทย์รอบพอร์ตยังไงให้ติดชัวร์!
Share
👋🏼เป็นหัวข้อที่ดู Overclaim นิดนึงใช่มั้ยครับ ฮ่าฮ่า ถึงการวางไทม์ไลน์ที่ดีอาจจะไม่ได้ช่วยให้ติดแน่นอน 100% (ถึงจะมีผลมากเหมือนกันก็เถอะ) แต่การวาง Timeline ที่ไม่ดี ก็ทำให้น้องๆไม่ติดกันมาเยอะมาเลยครับ เพราะปัญหาที่เจอบ่อยอันดับต้นๆของน้องๆแพทย์รอบพอร์ต คือ การเตรียมตัวไม่ทัน! ดูเป็นเรื่องที่เบสิคแต่หลายๆคนก็พลาดมาเยอะแล้ว วันนี้พวกเราเลยจะลองนำมุมมองของพี่ๆหลายๆคน (ไทม์, ไข่มุก, ทะเล และเอมมี่) มาแชร์กันว่า วาง Timeline เตรียมแพทย์รอบพอร์ตยังไงดี? พร้อมแล้ว ก็ลุยกันเลยครับ!
คำแนะนำการวาง Timeline by พี่ไทม์ แพทย์รามาปี 4 mdmm (Founder of Yoursphere)
🍇ส่วนตัวเวลาไทม์แนะนำน้องๆไทม์จะ Based on ตารางที่ไทม์ใช้เองครับ และปรับจากข้อผิดพลาดที่เจอบ่อยมากๆของน้องๆ 🙌🏻
- ควรทำความเข้าใจและหาความรู้เรื่องการทำพอร์ต ASAP (As soon as possible เลยครับ💯) เพื่อจะได้เอาไปวางแผนทั้งปีต่อว่าต้องทำกิจกรรมอะไรเพิ่ม, เลือกกิจกรรมยังไงดี เพราะรอบพอร์ตมีความเปลี่ยนแปลงตลอดและมีจุดที่ต้องระวังเยอะมากๆ ข้อเข้าใจผิดเยอะเลยครับ แนะนำว่าเริ่มจากความเข้าใจที่ดีก่อนสำคัญมากๆ 📈
2. IELTS รีบสอบให้ผ่านให้เร็วที่สุด ไม่ควรเกินเดือน 5-6 ครับ เพราะปัญหาที่เจอบ่อยสุดเลยคือ สอบไม่ผ่านจนช่วงใกล้ยื่นแล้วแผนล่มหมดเลยครับ🥺🙏🏻 แก้ง่ายๆ แค่วาง Deadline ให้ชัดครับ
3. เผื่อเวลาทำพอร์ตดีๆ เพราะของจริง ไทม์ก็ต้องแก้ 3-5 รอบเลยครับกว่าจะได้ Version ที่ส่งจริงๆ 🥹
คำแนะนำการวางแผน Timeline by พี่ทะเล แพทย์จุฬาฯ ปี 0
✋🏻 อยากให้ลองเอาไปปรับใช้ให้เข้ากับกิจกรรม/ตารางเวลาตัวเองนะ อันนี้เป็นแนะนำจากการลองผิดลองถูกของเราเอง
1. ศึกษาเกณฑ์การรับเข้าของคณะแพทย์แต่ละที่ว่าต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง จำนวนกิจกรรมเท่าไหร่ เพราะแต่ละที่มีรายละเอียดไม่เหมือนกัน คอยติดตามข่าวสารเอาไว้!
🌟พอรู้รายละเอียดแล้วว่าต้องใช้อะไรบ้าง มาเริ่มวางแผนเลยยว่าสอบอะไรในเดือนไหน + วางแผนกิจกรรมด้านไหนยังขาดอยู่
2. IELTS หรือคะแนนวัดระดับภาษาอังกฤษอื่นๆ รีบเตรียมตัวได้ยิ่งดีเลย 🚫อย่ารอจนใกล้ยื่นแล้วค่อยสอบ เผื่อคะแนนครั้งแรกยังไม่พอใจ จะได้มีเวลาสอบใหม่อีกรอบ
3. TBAT & CU-AAT เก็บเนื้อหาและตะลุยโจทย์ แต่ละวิชามีน้ำหนักไม่เท่ากัน ไม่มีขั้นต่ำแต่เราต้องอยู่ใน top60 นะ! (mdcu)
* สอบครั้งที่ 1 เดือนก.ค.
* สอบครั้งที่ 2 ( ใช้คะแนนจริง) เดือน ต.ค.
🌟 ควรเริ่มตะลุยโจทย์ช่วงเดือน 7 หรือ 8 ก่อนหน้านั้นให้เก็บเนื้อหาแต่ละวิชามาเรื่อยๆและทำแบบฝึกหัด
4. เขียนพอร์ต ควรเริ่มเขียน draft ก่อนประมาณ 1 เดือน เพราะต้องใช้เวลาในการเขียนและเวลาแก้พอร์ตด้วยย💗 🚫อย่ารอใกล้ยื่นแล้วค่อยเขียน เราเขียนช่วงใกล้ยื่นมากๆๆ ทำให้ไม่มีเวลาแก้เลย😿
🫶🏻 Timeline ควรทำให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้นะะ(สามารถทำได้จริง)) อย่าเขียนแบบกว้างเกินไปหรือเยอะเกินไปจนทำได้ยาก.
คำเเนะนำในการวาง Timeline พอร์ต โดยพี่ไข่มุก เเพทย์รามา-บริหาร 🩻
1.) ช่วงปิดเทอมใหญ่ (มีนาคม-พฤษภ
าคม)
- เเนะนำว่าช่วงปิดเทอมใหญ่ประมาณเดือนมีนาคม ถึง พฤษาภาคม ควรอ่านหนังสือเก็บเนื้อหาเรียนล่วงหน้า อาจจะเพื่อการเข้าค่าย สอวน. หรือ การเก็บเนื้อหาม.ปลายล่วงหน้าให้เสร็จในต้นปีก่อนจะเปิดเทอม เพราะสามารถนำไปใช้สอบ TBAT CU-AAT ได้ เเละยังประหยัดเวลาอ่านหนังสือ ทำให้มีเวลาทำโครงงาน หรือเเข่งขันต่าง ๆ ช่วงเปิดเทอม
- ส่วนตัวพี่เริ่มอ่านหนังสือเข้า สอวน. ตอน ม.3 ช่วงปิดเทอม เเล้วตอนช่วง ม.4 เป็นต้นไปก็ซื้อคอร์สเนื้อหา ม.ปลาย มาเรียนล่วงหน้า
- พอตอน ม.6 ที่ต้องสอบสำหรับยื่นพอร์ตก็ค่อยซื้อคอร์สตะลุยโจทย์ 1 เดือนก่อนสอบ TBAT CU-AAT
พี่เเนะนำตามนี้สำหรับน้อง ม.6
- มีนาคม - เก็บเนื้อหาคณิต เเละติว ielts
- เมษายน - เก็บเนื้อหาฟิกส์ ชีวะ ติว ielts
- พฤษภาคม - เก็บเนื้อหาเคมี เเละติว ielts
2.) ช่วงเปิดเทอม สอบ ielts (มิถุนาย
น-กรกฎาคม)
พี่เเนะนำให้สอบ ielts ช่วงมิถุนายน อาจจะเพิ่งเริ่มเปิดเทอม หรือก่อนเปิดเทอมจะดีมาก เผื่อไว้ต้องสอบหลายรอบ
ของพี่ไฟลนก้นมาก เพราะสอบช่วงกันยายน เเล้วสอบเเค่ครั้งเดียวไม่มีโอกาสได้เเก้ตัวเลย เเนะนำให้น้องเตรียมเยอะ ๆ เพราะ ielts มันเน้นฝึกสกิล เเล้วก็ความชินของเราในการลดความตื่นเต้น
3.) Check List กิจกรรมในพอร์ต เผื่อจะไม่ต้องทำเพิ่มเเล้ว เอาเวลาไปร่าง เเละศึกษา requirements เริ่มยื่นเลย (กรกฎาคม-สิงหาคม)
- อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญของพอร์ตคือการมีกิจกรรมที่รอบด้าน ไม่ใช่การได้รางวัลเยอะ ๆเสมอไป เพราะมีรุ่นพี่ที่ใส่เเต่ด้านวิชาการอย่างเดียว เเม้จะได้เ
หรียญ สอวน. ก็ตาม
พี่เเนะนำให้ลองเช็คเเต่ละด้านตามนี้ คือ
1.Research/academic
2.Social Skills and Community Service
พวกกิจกรรมจิตอาสาต่าง ๆ
3.Creativity and other talents
พวกเป็นพิธีกร ร้องเพลง วิ่ง เล่นกีฬา วาดรูป
4.Medical experiences
ไปฝึกงานโรงพยาบาล dr.shadowing
5.Leadership
เป็นหัวหน้าห้อง หัวหน้าโครงการ ประธานนักเรียน หรือทำงานสภา
เวลาที่เรามีกิจกรรมเยอะ กลัวจะลืม พี่เเนะนำว่าเราควรจะเอาผลงานมาสร้างตารางใน google sheet เขียนวันเวลาที่ทำ เเละรูปภาพ เกียรติบัตรใส่ลงไปด้วย เวลาดูเป็นภาพรวม หรือจะเขียนพอร์ตจะได้เห็นถาพชัด
4.) ทบทวนเนื้อหา เเละทำโจทย์ต่าง ๆ (สิงหาคม-กันยายน)
- สำหรับการสอบ AKAT UCAT TBAT CU-AAT SAT ต่าง ๆ
- ควรเริ่มทำโจทย์ได้เเล้วในเดือนนี้ เเละพี่เเนะนำให้เเม่นเนื้อหาด้วย
5.) เริ่มเขียนพอร์ต อย่างน้อยช่วงกันยายน!🔥
- พอผลงานครบเเล้วก็เริ่มเขียนได้เลยพี่เเนะนำให้เพื่อน พ่อเเม่ ครูสอนภาษาไทยช่วยดู เพราะว่าการสะกดคำก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่เเพ้กับการเขียนอธิบายเลย
- พี่เเนะนำว่าเราควรส่งพอร์ตก่อนวันกำหนดสุดท้ายอย่างน้อย 3-4 วัน เพราะยิ่งใกล้ ๆ ระบบอาจจะล่มได้ง่าย
คำแนะนำการวาง Timeline สำหรับการสมัครแพทย์ TCAS รอบ 1 by พี่เอมมี่ แพทย์ขอนแก่น ปี 1 md-mha 🍂
1️⃣ ทำความเข้าใจ requirements และ เริ่มต้นวางแผนการทำ Portfolio 💡
ในช่วงแรกนี้เป็นเวลาสำคัญในการวางรากฐาน Portfolio ของเรา โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจเกณฑ์ของคณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการจะเข้า 📝คะแนนที่ต้องใช้ 💯 สำหรับการวางแผนการเตรียมตัวว่า เราจะต้องมีผลงาน และ คะแนนอะไรบ้าง โดยเฉพาะ ติดตามประกาศล่าสุดจากทางคณะ เพราะเกณฑ์มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ดังนั้นต้องติดตามประกาศล่าสุดอยู่เสมอ 🆕
2️⃣ Personal Statement สำคัญพอ ๆ กับ Portfolio 📜
หลายคนให้ความสำคัญกับการใส่ผลงานเยอะ ๆ ใน Portfolio แต่ลืมไปว่า Personal Statement หรือ Motivation Letter คือสิ่งที่ช่วยให้กรรมการเห็น "ตัวตน" และ "เหตุผล" ที่แท้จริงว่าทำไมเราถึงอยากเป็นแพทย์ ไม่ใช่แค่เพราะชอบช่วยเหลือคน แต่ต้องมีเรื่องราวที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความเข้าใจในอาชีพแพทย์จริง ๆ การเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์และเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของตัวเอง จะช่วยให้ Portfolio โดดเด่น และ มีความน่าสนใจกว่าคนอื่น ดังนั้น การเขียนเรียบเรียง Personal Statement ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น ต้องเผื่อเวลาในการเขียนและการปรับปรุงแก้ไขให้ดี ✍🏻
3️⃣ วางแผนเวลาในการสอบคะแนนต่าง ๆ ที่ต้องใช้ให้ดี ⏰
หลังจากทราบว่าเราต้องใช้คะแนนอะไรบ้างแล้ว process ถัดไปคือการวางแผน และ เตรียมตัว สำหรับการสอบต่าง ๆ หากเราทำคะแนนได้ยังไม่ถึงเป้าหมายในรอบแรก ก็ต้องวางแผนการเตรียมตัวในรอบถัดไปให้ดี ไม่ควรสอบใกล้กับช่วงที่ถึงเวลายื่น Portfolio มากจนเกินไป เพราะ คะแนนอาจออกไม่ทัน หรือ ไม่ถึงเป้าหมายในช่วงที่ต้องยื่นได้ + ในส่วนของคะแนนภาษาอังกฤษ ถ้าทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ require มาว่าจะต้องเป็นคะแนนในปีการศึกษาที่จะยื่น แนะนำให้สอบตั้งแต่ม.5 เลย ถ้าหากเราทำคะแนนได้ดีแล้วก็จะมีเวลาในการเตรียมตัวสอบอื่น ๆ หรือ เก็บผลงานมากขึ้น ✨
4️⃣ ทำ Portfolio ให้เสร็จก่อนเดดไลน์ยื่นจริง 🗓️
หลายคนพลาดเพราะเริ่มทำ Portfolio ช้าเกินไป หรือ กะเวลาไม่ดีจนต้องเร่งทำใกล้เดดไลน์ ซึ่งอาจทำให้พลาดรายละเอียดสำคัญ เช่น การเรียบเรียงเนื้อหา การตรวจสอบความถูกต้อง หรือแม้แต่การปรับแต่งให้สมบูรณ์ เราควรให้เวลากับการแก้ไขอย่างน้อย 1-2 เดือนก่อนปิดรับสมัคร นอกจากนี้ ควรเผื่อเวลาสำหรับการให้ครูหรือรุ่นพี่ช่วยตรวจสอบอีกด้วย อย่างของเรากว่าจะยื่นก็แก้ไปหลายรอบมากเหมือนกัน ดังนั้น วางแผนดี ๆ นะะ 💘
Actionable แล้วทำยังไงต่อดี?🦝
1.ประเมินสถานการณ์ของตัวเอง : ตอนนี้เรามีเวลาเหลืออีกเท่าไหร่ มีอะไรบ้างที่เราต้องทำ
2.วางแผน Timeline : เขียนออกมาให้ชัดว่าแต่ละช่วงเดือนควรทำอะไรบ้าง
เช็คดูว่า Timeline ที่เราวาง ทำได้จริงป่าว อาจจะลองปรึกษาพี่ๆดูก็ได้!
3.ลงมือและปรับเปลีี่ยน : พอทำไปสักพัก แผนอาจจะไม่เป็นไปตามที่วางไว้ อย่าลืมหาแผนสำรอง และวางแผนให้มีความยืดหยุ่นด้วยนะ!
เคล็ดลับของพี่ๆ
และสำหรับน้องๆแพทย์รอบพอร์ต เราขอแนะนำไกด์การทำ Portfolio ที่อัดแน่นไปด้วยองค์ความรู้ Insights และเทคนิคการทำ Portfolio ที่ทำโดยรุ่นพี่ที่ติดคณะสุขภาพตัวจริงและประสบการณ์ของ Yoursphere ที่ช่วยน้องๆติดแพทย์รอบ 1 มาแล้วมากกว่า 106 คน! เป็น Must Have ที่อยากแนะนำน้องๆจริงๆ🥰
ความลับอย่าไปบอกใคร เรามีโค้ดลดให้อีก 10% "YSNEWSHOP"
ลองดูรายละเอียดสินค้าเลย! Ultimate Med Portfolio Guide by Yoursphere สำหรับปูความรู้พื้นฐานและเทคนิคการทำพอร์ตเข้าแพทย์ (คลิ๊กเพื่อดู)
และ Med Portfolio Guide เจาะจงมหาลัย ที่นำ Trends/Insights และความรู้ของพอร์ตปีล่าสุดมาให้น้องๆ โดยพี่ๆ DEK68 ตัวจริง!
แนะนำว่าให้ซื้อคู่กันทั้ง Ultimate Med Portfolio Guide และ Med Portfolio Guide เจาะจงมหาลัยเลย! ลดถูกกว่ามากๆ (คลิ๊กเพื่อดู)
See U Next Blog!