อยากติดแพทย์รอบ 1 (Portfolio) เริ่มยังไงดี? แชร์ประสบการณ์ตรงจากไทม์ Founder of Yoursphere : Part 1

      สวัสดีครับน้องๆ TCAS69,70 และรุ่นถัดๆไปทุกคน 👋🏻  ไทม์นะครับ เป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 3 หลักสูตรแพทย์-บริหารที่คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี dek65 ที่ติดแพทย์รอบ 1 ละเป็น Founder ของ Yoursphere.official ที่คอยช่วยให้น้องๆสอบติดแพทย์รอบ 1 มาแล้วรวมๆมากกว่า 106 คนตลอด 3 ปีที่ผ่านมาครับ

 

       ใน Blog นี้ซึ่งเป็น Blog แรกของเว็ปไซต์ของเรา ไทม์ยินดีมากๆเลยครับที่จะได้มาแชร์ประสบการณ์และเทคนิคการเตรียมตัวสอบเข้าแพทย์รอบ 1 ให้ทุกคนได้อ่านกันในวันนี้! 🥸

 

      ใครที่อยากสอบเข้าคณะสุขภาพทั้งรอบ 1 และ 3 ไทม์ฝาก IG : yoursphere.official และ Line Openchat Community ของพวกเราด้วยนะค้าบ รวมคอนเทนท์ดีๆจากรุ่นพี่ที่ติดมาก่อนมาให้น้องๆทุกสัปดาห์เลย! กดติดตามกันไว้ด้วยนะค้าบ เข้าเนื้อหากันเลย! 

Step 1 : เริ่มจากการรู้ตัวเร็ว! ⏱️

ถ้ารู้ตัวเร็วก็จะมีเวลาในเตรียมตัวมากกว่า เหนื่อยลดลง ผลลัพธ์ดีขี้น ✅ 

• แต่อีกจุดที่สำคัญมากๆสำหรับรอบพอร์ต🧠 คือการรู้ตัวและมั่นใจกับตัวเองว่าคณะแพทย์เป็นคณะที่เราอยากเข้าจริงๆ ตรงกับเป้าหมายชีวิตเราจริงๆ 🤍

อันนี้ทุกคณะทุกรอบต้องทำอยู่แล้ว แต่ในรอบพอร์ตเป็นพิเศษ เพราะความตั้งใจและความฝันเหล่านั้นจะต้องถูกแสดงออกผ่านการเขียน Portfolio และการสัมภาษณ์ต่อไปในอนาคต 🥺👌🏻

🎯 ปล. ยิ่งถ้ารู้ว่าตัวเองอยากเข้าที่มหาลัยในด้วยก็จะดีมากๆ ยิ่งช่วยให้โฟกัสได้ถูกจุด so การรู้เป้าหมายตัวเองสำคัญมาก เป็นอย่างแรกเลย🔥

• How to : อาจเริ่มจากการตั้งคำถามถึงเป้าหมายชีวิตตัวเอง ลองทำกิจกรรม explore options เยอะๆ -> หาข้อมูลตาม YT -> คุยกับรุ่นพี่ในคณะ -> ไปงาน open house🎉

FAQ : ควรเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ตอนไหนดี? 🧐

คำตอบคือเริ่มต้นให้เร็วที่สุดครับ ถ้าเริ่มได้ตั้งแต่ ม.4 เลยจะดีมากๆครับ ฟังดูแล้วอาจจะรู้สึกเหนื่อยใช่มั้ยครับ เริ่มเตรียมเข้ามหาลัยตั้งแต่พึ่งเข้าม.ปลาย!? 😱 

ที่ไทม์หมายถึงว่าเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ ม.4 เลยคือ ไทม์อยากให้น้องๆลองเริ่มค่อยๆค้นหาตัวเองตั้งแต่ ม.4 เลยถ้ามีโอกาสครับ 😍 ไปค่ายอยากเป็นหมอ, ดูงานสายอาชีพต่างๆ แล้วลองดูว่าเส้นทางแพทย์ใช่เส้นทางที่เราอยากเดินจริงๆรึเปล่า 🤍 เพราะอาชีพแพทย์ไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายเลยครับ การรู้และรักในเส้นทางนี้จึงสำคัญมากๆ ออกไปค้นหาตัวเองเยอะๆเลย! 

นอกจากนี้ก็พยายามเข้ากิจกรรมในโรงเรียนและทำกิจกรรมในโรงเรียนเรื่อยๆด้วยครับ จะด้านวิชาการหรือไม่ใช่ก็ได้ 👍🏻 เพราะยังไงการทำ Portfolio อาศัยกิจกรรมมากกว่าแค่ด้านวิชาการไปมากเลยครับ จะกิจกรรมภาวะผู้นำ, โครงงานต่างๆ, แข่ง Hackathon, ทำกีฬาสี, เล่นกีฬา, ดนตรี และอื่นๆอีกมากมาย ได้เก็บพอร์ตแถมได้ความสนุกจากการทำกิจกรรมด้วย! 

ซึ่งการรู้จักตัวเอง (รู้เป้าหมายตัวเอง, รู้ว่าแพทย์ใช่ทางเราจริงๆ) และกิจกรรมในและนอกโรงเรียนล้วนมีประโยชน์กับการเข้าแพทย์รอบพอร์ตตรงๆเลยครับ! 😻🙌🏻

“แต่อย่างไทม์ก็พึ่งมาเริ่มตอน ม.5 เทอม 2 เหมือนกัน! 😱 ก็ปั่นกิจกรรมกันหัวหมุนเลยตอนนั้น อย่าหาทำ55”

 

Step 2 : วางแผนให้รอบด้าน🗓️

A goal without plan is just a dream😍🔥

1️⃣ทำ checklists สิ่งที่ต้องทำให้ครบตาม requirements✅

2️⃣เอา checklists ใส่ timeline ว่าช่วงไหนควรทำอะไรอยู่ อะไรต้องเสร็จตอนไหน⏱️

👩🏼‍🎓 หลังจากที่มีเป้าหมายที่ชัดก็เริ่มวางแผนสิ่งที่ต้องทำออกมาใช้ชัดเจนเป็น Checklist เลยว่ามีอะไรบ้างที่ต้องทำ 

• ถ้าให้ดีควรทำเป็น timeline ให้ชัด เช่น ม.4 ควรเริ่มเรียน IELTS เก็บกิจกรรมเก็บเกรด ม.5 เก็บคะแนนที่ต้องสอบ เช่น BMAT เริ่มวางแผนพอร์ต และอื่นๆ  🙌🏻

จุดระวัง! เตรียมสอบไม่ทัน 😭

🚨เพราะหนึ่งในปัญหาที่เจอบ่อยมากๆของน้องๆคือ “การเตรียมตัวสอบไม่ทัน” เคสที่เจอบ่อยมากๆคือน้องๆวางแผนตารางการเตรียมตัวไม่ดีครับ ไม่รู้ว่าเดือนไหนควรทำอะไรจบแล้วบ้าง 

หลายๆคนวางแผนสอบ IELTS กระชั้นชิด ไปสอบช่วงเดือน 6-7 หวังว่าจะผ่านในครั้งแรก พอคะแนนออกมายังไม่ถึงเป้าก็ต้องรีบเร่งสอบให้ทันยื่นพอร์ตช่วงเดือน 9-10 สุดท้ายหลายคนก็สอบ IELTS ไม่ทันยื่น หรือ มัวแต่สอบ IELTS จนไม่มีเวลาเขียนพอร์ตให้ดี จนไม่ติดสัมภาษณ์ด้วยซ้ำครับ 😭

พอช่วง ม.5 เทอม 1 หรือ 2 ให้ดีควรเริ่มวางแผนแล้วครับว่าจนถึงยื่นจะต้องทำอะไรบ้าง! โดยใช้วิธีวางแผนย้อนกลับ (Retrospective Planning) ว่าถ้าอยากได้เป้าในการยื่นช่วงเดือน 9-10 ต้องทำอะไรเสร็จช่วงไหนบ้าง 🥹💯

วางแพลนให้ Flexible ด้วยนะ! 

แต่ถ้าใครอยากได้ตัวช่วยการวางแผนการเรียนลองแวะไปดู Academic life OS ver.ม.ปลาย ของ Yoursphere ได้นะ! 🥹🤍 มีไกด์และ template ช่วยวางแผนละเอียดมากก

Step 3 : Avoid red flags 🚩

🧠 อีกเรื่องที่สำคัญมากๆแต่เป็นอีกจุดพลาดที่หลายๆคนพบคือ “การทำความเข้าใจถึงหัวใจของรอบ Portfolio จริงๆ” เข้าใจว่าในรอบนี้ มหาลัยมองหาอะไร เราควรเตรียมพอร์ตยังไง 🚫จุดไหนที่เป็นคำแนะนำที่กวดวิชาใหญ่ๆแนะนำนักเรียนหลายพันหมื่นคนด้วยกัน คำแนะนำไหนผิด ต้องเลี่ยงคำแนะนำไหนดี อันไหนควรปรับยังไงบ้าง🚫 ต้องเข้าใจถึงหัวใจ insights เหล่านี้ให้ถูกต้องแต่แรก 

• เราไม่ควรลงคอร์สสอนทำวิจัย! เสียเงินแถมโดนอาจารย์หักคะแนน วิจัยไม่จำเป็น ถ้าทำทำด้วยความสงสัยจริงๆของตัวเอง 👀
• พวกกิจกรรมที่เสียเงินแลกผลงาน เช่น ค่ายหมอไม่กี่วัน กิจกรรมสอน CPR ควรหลีกเลี่ยง 🎯 (ไม่นับพวกค่าเข้ากิจกรรมนะ อันนั้นต้องเสียเป็นธรรมดา55) 
• การเขียน reflection : 15 core competency ดี แต่ทุกคนก็มีเหมือนกัน ต้องทำยังไง? : เขียน reflect ในฉบับที่โชว์ความเป็นตัวเองมากที่สุด อาจให้พี่ๆที่ติดแล้วช่วยดูให้แบบ Personalized 🤓🔥

Tip : กระซิบว่าจากเทรนด์ปี 68 หลายๆที่เน้นกิจกรรมด้านวิชาการมากขึ้น 🧠 เราต้องทำให้คณะมั่นใจว่าเราจะเรียนแพทย์ได้ดี! เพราะเนื้อหาในการเรียนแพทย์ก็ไม่ใช่ง่ายๆทีเดียว 🥹 ไม่จำเป็นต้องเป็นสอวนก็ได้! ถ้าอยากรู้ Insights เพิ่มต้องไปดูใน Med Portfolio Guide : เจาะจงแต่ละมหาลัย

เริ่มต้นด้วยการเข้าใจว่าในเส้นทางการเตรียมตัวเข้าแพทย์รอบพอร์ตต่อจากนี้จะต้องเจออะไรบ้าง ไทม์ว่านั่นแหละครับคือการเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด! 💯🤍 

👋🏻สำหรับน้องๆที่อยากเข้าแพทย์รอบ 1 จะบอกว่าตอนนี้ Yoursphere มีไกด์การทำ Portfolio เข้าแพทย์รอบ 1 แบบละเอียดมากกกให้ด้วย พร้อมเทคนิคและความรู้ที่เจาะจงของแต่ละมหาลัยแบบเฉพาะอีก 😻👍🏻 สกัดข้อมูลจากประสบการณ์ตรงของรุ่นพี่หลายสิบคน หา Insights และประสบการณ์แบบนี้ไม่ได้จากที่อื่นแน่นอน! 

ขายเลยอันนี้เพราะไทม์มั่นใจมากว่าของเราดีจริงแต่ที่น้องๆติดมามากกว่า 106 คนแล้วใน 3 ปี 🥹💯

สั่งเลย! จิ้มๆ👇🏻

ใครที่ชอบคอนเทนท์ด้านการเรียน✍🏻, การสอบเข้าคณะสุขภาพ TCAS1 และ 3👨🏼‍⚕️ และ การพัฒนาตัวเอง 📈 ก็อย่าลืมกดติดตาม IG : yoursphere.official และเข้า Line Openchat ของพวกเราด้วยน้า แล้วไว้พบกันใน Part 2 ครับ!